หลายคนประสบปัญหาหนี้พอกพูนเพราะเป็นหนี้หลายที่จ่ายทีหลักหมื่นก็คงไม่ไหวจนต้องทำให้เสียประวัติเครดิต จ่ายขั้นต่ำวนไปก็หักแต่ดอกเบี้ยไม่ได้มีโอกาสได้หักเงินต้นบ้างเลย ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือ หนี้บัตรกดเงินสด ก็ล้วนแต่เป็นหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง หากลืม หรือ ไม่มีกำลังจ่ายแค่หนึ่งเดือนอาจจะพอกพูนมหาศาล ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันทางเงินมีมาตราช่วยเหลือหลายทางรวมถึงการรวมหนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจและมีข้อดีสำหรับผู้ที่มีหนี้อยู่หลายที่
การรวมหนี้ไว้ช่วยให้คุณลดภาระหลักหมื่น แล้วผ่อนสบายๆ หลักพัน หรือ หลักร้อยได้ คุณสามารถรวมหนี้ไว้ที่เดียวที่กับสินเชื่อที่ถูกกฎหมายช่วยให้คุณไม่ต้องวุ่นวายใจ สามารถจัดสรรงบประมาณในการชำระค่างวดต่อเดือนให้จบได้ในที่เดียว สะดวกสบาย ดีต่อใจขนาดนี้ มาดูข้อดี-ข้อเสียของการรวมหนี้กัน
การรวมหนี้ คือ อะไร
การที่นำหนี้ที่มีอยู่จากหลายๆ ที่ทั้งในและนอกระบบ จากบัตรเครดิต หรือจากบัตรกดเงินสด มารวมยอดไว้ที่เดียวกัน เพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับสถาบันการเงินในระบบมาปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงแล้วเลือกผ่อนเป็นรายงวดคืนให้กับสถาบันทางการเงินนั้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงและชำระหนี้เพียงแค่ที่เดียว
ข้อดี | ข้อเสีย |
หนี้ทั้งหมดถูกรวมไว้เป็นก้อนเดียวกัน | อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบางที่อาจจะสูงกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต ควรพิจารณาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ |
ลดความวุ่นวาย มีภาระจ่ายค่างวดคืนสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียว | เมื่อคุณต้องการรวมหนี้ ยอดหนี้ของคุณจะรวมทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย หรือ ค่าปรับต่างๆ และเงินก้อนนี้ก็จะเป็นยอดหนี้ใหม่ที่คุณต้องมาเสียดอกเบี้ยซ้ำอีกที เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายดอกเบี้ย 2 ต่อ |
ไม่ต้องโดนทวงถามจากเจ้าหนี้หลายที่ และลดความเสี่ยงกับการทวงหนี้นอกระบบ | |
มีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิม | |
จำนวนยอดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนต่ำลง ช่วยปรับสภาพคล่องทางการเงินให้ดีขึ้น | |
รู้ระยะเวลาการผ่อนชำระที่แน่นอน เช่น 3 ปี หรือ 5 ปีและมีโอกาสปลดหนี้ง่ายกว่า | |
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสนใจการรวมหนี้และไม่ต้องกังวลไปเลยเพราะคุณมีทางเลือกที่หลากหลายขึ้นอยู่ว่าเราจะเลือกรวมหนี้แบบไหน กับสถาบันการเงิน หรือ ธนาคารที่ใดที่ตอบโจทย์กับคุณมากที่สุด
แนะนำผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์น่าสนใจปี 2566
สินเชื่อ / โครงการ ธนาคาร/สถาบันทางการเงิน | อัตราดอกเบี้ย | วงเงินสูงสุด |
อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 24.99% ต่อปี (คำนวณแบบลดต้นลดดอก) | วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท | |
ดอกเบี้ยลดลงจากสถาบันการเงินเดิม 1% ต่อปี | วงเงินสินเชื่อสูงสุด 3 เท่าของหลักประกัน | |
เริ่มต้น 9.99%- 16.88% ต่อปี | วงเงิน 5 เท่าของรายได้หรือสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท | |
เริ่มต้นที่ 13% - 24.50% ต่อปี (คำนวณแบบลดต้นลดดอก) | วงเงินสูงสุด 1,500,000 บาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ | |
ดอกเบี้ยช่วงลอยตัวตามสัญญากู้เงิน บวกร้อยละ 2 ต่อปี | วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน | |
ดอกเบี้ยต่ำสุด 12.99% ต่อปี | วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท | |
ดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 9.99% ต่อปี | วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท หรือ 5 เท่าของรายได้ | |
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหลังช่วง teaser rate + 2.00% ต่อปี | รวมหนี้ภายในสูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน |
หรือ การยืมเงินผ่านแอปที่ดอกเบี้ยราคาถูกกว่า หรือค่างวดต่ำกว่าเพื่อชะลอปัญหาการค้างชำระระยะยาว
วิธีการเตรียมตัวเบื้องต้นสำหรับการรวมหนี้
1. ลิสต์รายการหนี้ทั้งหมดที่มี เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าเราจะต้องขอสินเชื่อจำนวนเท่าไร เช่น มีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 3 ใบ ยอดหนี้ 10,000, 30,000, 20,000 บาทตามลำดับ เท่ากับว่าเราต้องได้สินเชื่ออย่างน้อย 60,000 บาท ถึงจะครอบคลุมหนี้ทั้งหมด
2. ประเมินค่างวดที่คุณจะผ่อนไหว คิดจาก (รายได้สุทธิในแต่ละเดือน – ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน) = เงินคงเหลือที่สามารถผ่อนไหว โดยที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนคุณจะต้องคิดรวมจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เป็นต้น นอกจากนี้แนะนำให้ดูรายละเอียดของการจ่ายค่างวดกับสถานบันทางเงิน หรือ ธนาคาร หากมีการลดให้ทั้งต้นและดอกเบี้ยเมื่อจ่ายค่างวดก็จะเป็นผลดีต่อคุณเพราะจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้ในงวดถัดๆ ไป
3. หาข้อมูลสถาบันทางการเงิน หรือ ธนาคารที่ให้บริการรวมหนี้ โดยหลักในการพิจารณาที่สำคัญ คือ สามารถผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด และมีเงื่อนไขตรงกับที่คุณต้องการ แนะนำในกรณีที่ใครที่มีหนี้บ้านอยู่แล้วสามารถรวมหนี้บ้านเข้ากับหนี้บัตรเครดิตได้เพราะจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล จะช่วยให้บริหารจัดการหนี้ได้ดียิ่งขึ้น
การรวมหนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะปิดหนี้ แต่ขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้มีพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำทุกเดือน และรับภาระดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าหากมีความพยายามและเลือกวิธีการรวมหนี้อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะคุณจะสามารถปิดหนี้ได้ไวขึ้น และถ้าหากคุณไม่อยากให้หนี้ก้อนใหม่มาเป็นภาระ อย่าลืมวางแผนทางการเงินและชำระค่างวดให้ตรงกำหนด รับรองคุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอน
ขอบคุณครับ
เคยโทรถามธนาคารแล้วหลายที่เห็นเราหนี้เยอะก็บอกว่าไม่ผ่านหลักเกณแล้วครับ
ผมทำได้ใหม ใช้เวลากวัน
ก็ดี